นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Policy

บริษัท ช.ที.เอ็ม ลิสซิ่ง จำกัด (“ช.ที.เอ็ม”) (ใช้คำเรียกแทนว่า “บริษัท” หรือ “ของบริษัท”) ตระหนักและยึดมั่นถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอย่างจริงจัง เรามุ่งมั่นในการรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลทุกประการ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พุทธศักราช 2562 เราจึงให้ความสำคัญด้านการเคารพสิทธิในความเป็นส่วนตัวของท่าน เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับจะถูกนำไปใช้ตรงตามความต้องการของท่านและถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีใจความโดยสังเขป ดังนี้


1. นโยบายฉบับนี้มีขึ้นเพื่ออะไร

นโยบายนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้รับทราบอย่างชัดเจนถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียดในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายที่ท่านมี ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญและมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลของท่านอย่างเต็มที่

นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ใช้สำหรับบุคคลกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้

1.1 ลูกค้าบุคคลธรรมดา: ทั้งลูกค้าในอดีตและลูกค้าปัจจุบันของบริษัทที่เป็นบุคคลธรรมดา

ลูกค้าองค์กรธุรกิจ: รวมถึงกรรมการ ผู้ถือหุ้น ผู้รับประโยชน์ที่แท้จริง พนักงาน ผู้ค้ำประกัน ผู้ให้หลักประกัน และตัวแทนทางกฎหมายของลูกค้าองค์กรธุรกิจทั้งในอดีตและปัจจุบัน โดยบริษัทขอแนะนำอย่างยิ่งให้ลูกค้าองค์กรธุรกิจดำเนินการแจ้งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องหรือมีอำนาจในการดำเนินการทราบถึงนโยบายนี้

1.2 บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ลูกค้า: เช่น ผู้ลงทุน ผู้ที่ทำธุรกรรมกับลูกค้าของบริษัท ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ผู้ค้ำประกัน ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง กรรมการ ผู้ให้เช่า ผู้ซื้อทรัพย์สินจากบริษัท รวมถึงผู้สมัครงานกับบริษัท

ทั้งนี้ บริษัทตระหนักดีว่า การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นเรื่องสำคัญ หากท่านใช้ลิงก์ที่นำไปยังแพลตฟอร์มของบุคคลภายนอก ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกจัดการตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกนั้นๆ เราขอแนะนำให้ท่านศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวของแพลตฟอร์มนั้นอย่างละเอียดก่อนดำเนินการใด ๆ


2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บและรวบรวม

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล  คือ ข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ได้แก่

2.1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทโดยตรง หรือให้ผ่านบริษัท หรือมีอยู่กับบริษัททั้งที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านช่องทางดิจิทัล สาขา เว็บไซต์ Call Center ระบบโทรศัพท์ของบริษัท ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือช่องทางอื่นใด

2.1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากท่านโดยตรง เช่น หน่วยงานของรัฐ บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการทางการเงิน พันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทข้อมูลเครดิต และผู้ให้บริการข้อมูล เป็นต้น ซึ่งบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่นต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่บริษัทมีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว(Sensitive Data)  คือ ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ ซึ่งบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวต่อเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต โดยบริษัทอาจต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลข้อมูลชีวภาพ (Biometric) เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลจำลองม่านตา ข้อมูลอัตลักษณ์เสียง เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการที่ขอสมัคร และ/หรือทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัล สาขา เว็บไซต์ Call Center หรือช่องทางอื่นใด เป็นต้น

(ต่อไปในนโยบายฉบับนี้หากไม่กล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียกข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่เกี่ยวกับท่านข้างต้น รวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” )

2.3 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขอบเขตของผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการที่ท่านอาจเคยใช้หรือสนใจ โดยมีทั้งข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้

2.3.1 ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด เพศ สถานภาพสมรส สัญชาติ

2.3.2 ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย ที่อยู่ติดต่อทางไปรษณีย์ สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล บัญชี Social Media

2.3.3 รายละเอียดที่ใช้ในการระบุตัวตนและการยืนยันตัวตน เช่น ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน เลขประจำตัวประชาชน ข้อมูลหนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับรถ ลายมือชื่อ

2.3.4.รายละเอียดการทำงาน เช่น อาชีพ ตำแหน่ง เงินเดือน ค่าตอบแทน

2.3.5 ข้อมูลทางการเงิน เช่น รายรับ รายจ่าย เลขบัญชีเงินฝาก จำนวนเงินฝาก ประวัติทางการเงิน รายการทรัพย์สิน ความสามารถของท่านในการได้มาและจัดการสินเชื่อ

2.3.6 ข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น รายการเดินบัญชี การชำระเงิน การกู้ยืมเงิน การลงทุน

2.3.7 ข้อมูลระบุทรัพย์สินของบุคคล เช่น ทะเบียนรถยนต์ รถจักรยานยนต์, โฉนดที่ดิน, หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด, หนังสือรับรองการทำประโยชน์(นส.3ก) เป็นต้น

2.3.8 ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น IP address MAC address Cookie ID

2.3.9 ข้อมูลอื่นๆ เช่น การใช้งานเว็บไซต์ เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

2.3.10 ข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยและการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (เช่น ข้อมูลความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย ข้อมูลการรักษาพยาบาล ข้อมูลประวัติการเรียกร้องสินไหมทดแทน)

2.3.11 ข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไม่ว่าผ่านช่องทางใดๆ

2.4 แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยทั่วไปแล้วบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง แต่ในบางกรณีบริษัทอาจได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่น ซึ่งบริษัทจะดำเนินการให้เป็นไปตามที่ พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนด โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่น อาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้

2.4.1 ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของบริษัท พันธมิตรทางธุรกิจ และ/หรือ บุคคลอื่นใดที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์ด้วย

2.4.2 ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากบุคคลที่มีความเกี่ยวเนื่องกับท่าน (เช่น ครอบครัวของท่าน เพื่อน ผู้แนะนำ)

2.4.3 ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากลูกค้าองค์กรธุรกิจ ในฐานะที่ท่านเป็นกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทน ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือผู้ติดต่อ

2.4.4 ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท สถาบันการเงิน บริษัทข้อมูลเครดิต และ/หรือ ผู้ให้บริการภายนอก (เช่น ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรม ข้อมูลเครดิต)

2.4.5 ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากบริษัทประกัน และ/หรือบุคคลอื่นใด ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับกรมธรรม์ประกันภัยหรือการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน

2.4.6 ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากแบบสอบถามและรายละเอียดการติดต่อเมื่อท่านเข้าร่วมการสำรวจ งานสัมมนา การจัดรายการส่งเสริมการขาย หรือข้อมูลที่ท่านมีการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลในแบบฟอร์มติดต่อบริษัทบนเว็บไซต์

2.4.7 ข้อมูลที่ได้จากการที่ท่านให้ไว้เพื่อวัตถุประสงค์สมัครงานในตำแหน่งต่างๆ กับบริษัท รวมถึงบริษัทในเครือ

2.4.8 กรณีท่านเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) (เว้นแต่เป็นกรณีที่พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม)


3. บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ใดบ้าง

บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะกรณีที่จำเป็นหรือมีฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่งรวมถึงกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการดำเนินการตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท การดำเนินการตามความยินยอมของท่าน และ/หรือภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นๆ โดยวัตถุประสงค์ในเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • 3.1 เพื่อให้ท่านได้ใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของท่าน และเพื่อการอื่นที่จำเป็นภายใต้กฎหมาย

    • 3.1.1 เพื่อให้ท่านสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท (Contractual Basis) เช่น
      (1) การพิจารณาอนุมัติ การให้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่างๆ เช่น การขอสินเชื่อ การลงทุน การทำประกันภัย การฝาก ถอน โอน แลกเปลี่ยน ชำระเงินหรือทรัพย์สินใดๆ
      (2) การดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่างๆ เช่น การประมวลผล การติดต่อ การแจ้ง การดำเนินการใดๆตามคำร้องขอของท่านเกี่ยวกับวงเงินกู้หรือสินเชื่อเพิ่มสภาพคล่องอื่นๆ คำร้องขอเกี่ยวกับออกหนังสือค้ำประกัน การเปลี่ยนแปลงกรมธรรม์ประกันภัยของท่าน การตอบข้อสงสัย การมอบงานให้แก่บุคคลอื่นที่เป็นผู้ให้บริการภายนอก การโอนสิทธิและ/หรือหน้าที่ การแจ้งเตือนชำระหนี้หรือต่ออายุผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่างๆ การติดตามทวงถามหนี้

    • 3.1.2 เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับ (Legal Obligation) เช่น
      (1) เพื่อปฏิบัติตาม พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
      (2) การปฏิบัติตามกฎระเบียบและ/หรือคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย (เช่น คำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ)
      (3) การปฏิบัติตามกฎหมายธุรกิจสถาบันการเงิน กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายประกันชีวิต กฎหมายประกันวินาศภัย กฎหมายภาษีอากร กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายล้มละลาย และกฎหมายอื่นๆ ที่บริษัทจำเป็นต้องปฏิบัติตามทั้งของในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงประกาศและระเบียบที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว
      ทั้งนี้ บริษัทจำเป็นต้องใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท หรือการเข้าทำสัญญากับเจ้าของข้อมูล หรือบริษัทอาจจะไม่สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการให้แก่เจ้าของข้อมูล หากบริษัทไม่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเมื่อมีการร้องขอ

    • 3.1.3 เพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท บริษัทในเครือ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล (Legitimate Interest) เช่น
      (1) บันทึกการโต้ตอบและการสื่อสารระหว่างท่านกับบริษัท ไม่ว่าจะในรูปแบบหรือวิธีใดๆ ก็ตาม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ (social media) การบันทึกภาพกล้องวงจรปิด(CCTV) การแลกบัตรก่อนเข้าอาคาร
      (2) การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การจัดการข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การดูแลลูกค้าโดยพนักงานของบริษัท การแจ้งเตือนหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการต่างๆ ประเภทเดียวกันกับที่ท่านมีอยู่กับบริษัทซึ่งเป็นประโยชน์กับท่าน
      (3) การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ การบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการส่งต่อไปยังบริษัทในเครือกิจการเดียวกันเพื่อการดังกล่าว ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเครือกิจการ (Binding Corporate Rules)
      (4) การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (Anonymous Data)
      (5) การป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดการกระทำการทุจริต ภัยคุกคามทางไซเบอร์ การผิดนัดชำระหนี้หรือผิดสัญญา (เช่น ข้อมูลล้มละลาย) การทำผิดกฎหมายต่างๆ (เช่น การฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือชื่อเสียง) ซึ่งรวมถึงการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงานของบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกันในการป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงข้างต้น
      (6) การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทน ของลูกค้านิติบุคคล
      (7) การติดต่อ การบันทึกภาพ การบันทึกเสียงเกี่ยวกับการจัดประชุม อบรม สันทนาการ หรือออกบูธ
      (8) การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
      (9) การรับ-ส่งพัสดุ

3.2 เพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์จากการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ตามที่ท่านเลือกให้ความยินยอมไว้ เช่น

3.2.1 เพื่อให้ท่านได้รับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่ดียิ่งขึ้น และสอดคล้องกับความต้องการของท่าน

3.2.3 เพื่อให้ท่านได้รับข้อเสนอ สิทธิประโยชน์พิเศษ คำแนะนำ และข่าวสารต่างๆ รวมถึงสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ

3.2.3 เพื่อพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ รวมทั้งระบบงานต่างๆ ของบริษัท เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการของบริษัท และ/หรือเพื่อประโยชน์สูงสุดในการตอบสนองความต้องการของท่าน

ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์และ/หรือ บริการ สิทธิประโยชน์ โปรโมชั่น ข่าวสาร หรือกิจกรรมพิเศษของบริษัทเอง หรือของบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน หรือของบุคคลที่บริษัทเป็นตัวแทน นายหน้า ผู้จำหน่าย หรือของพันธมิตรทางธุรกิจ หรือของบุคคลภายนอกที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท ตามแต่กรณีที่ท่านให้ความยินยอมไว้

3.3 เพื่อเป็นการปฏิบัติภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นๆ นอกเหนือไปจากฐานทางกฎหมายข้างต้น บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นดังต่อไปนี้

3.3.1 จัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ

3.3.2 ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

3.3.3 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อการใช้อำนาจขอพนักงานเจ้าหน้าที่


4. บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้

4.1 บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น เพื่อการให้บริการแก่ท่าน เพื่อการวิเคราะห์และพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ เพื่อการทำวิจัยหรือจัดทำข้อมูลทางสถิติ เพื่อการส่งเสริมการขายและการประชาสัมพันธ์ของบริษัท เพื่อการบริหารกิจการ เพื่อการป้องกันการทุจริต เพื่อให้ผู้อื่นให้บริการสนับสนุนแก่บริษัท เพื่อการพิสูจน์ตัวตนลูกค้า โดยบริษัทอาจเปิดเผยให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ เช่น บริษัทในเครือ บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล คลังเก็บเอกสาร พันธมิตรทางธุรกิจที่ออกผลิตภัณฑ์ร่วมกัน ผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทนของบริษัท ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ สถาบันการเงิน ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอก บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ บริษัทบริหารสินทรัพย์ บริษัทข้อมูลเครดิต ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ผู้สนใจจะเข้ารับโอนสิทธิและ/หรือผู้รับโอนสิทธิในธุรกรรมหรือการควบรวมกิจการต่างๆ ของบริษัท นิติบุคคลหรือบุคคลใดๆ ที่มีความสัมพันธ์หรือมีสัญญาอยู่กับบริษัท ซึ่งรวมตลอดถึง ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทและของบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าว กรณีเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บุคคลอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดของผู้รับข้อมูล เช่น เพื่อการส่งเสริมการขาย การประชาสัมพันธ์ หรือการเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการจากผู้รับข้อมูลให้แก่ท่าน บริษัทจะแจ้งรายชื่อผู้รับข้อมูลให้ท่านทราบเพื่อประกอบการตัดสินใจให้ความยินยอม

4.2 บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ผู้ให้บริการด้านสื่อสังคมออนไลน์(ในรูปแบบที่ปลอดภัย) หรือบริษัทโฆษณาภายนอก เพื่อแสดงข้อความให้แก่ท่าน และบุคคลอื่นใดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท โดยบริษัทโฆษณาภายนอกอาจใช้ข้อมูลประวัติกิจกรรมออนไลน์ของท่าน เพื่อจัดสรรการโฆษณาที่ท่านอาจสนใจ

4.3 บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อหน่วยงานของรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท (เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม)

4.4 บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อตัวแทนทวงถามหนี้ ทนายความ บริษัทข้อมูลเครดิต หน่วยงานป้องกันการทุจริต ศาล หน่วยงาน หรือบุคคลใดๆ ที่ธนาคารถูกกำหนดหรือได้รับอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย กฎระเบียบ หรือคำสั่ง

4.5 บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลอื่นใดที่ให้ผลประโยชน์หรือให้บริการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของท่าน(เช่น บริษัทประกันภัย) และ/หรือ ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ตัวแทน หรือผู้แทนโดยชอบธรรมของท่านที่มีอำนาจตามกฎหมายโดยชอบ หรือผู้ให้หลักประกันที่เป็นบุคคลภายนอก


5. บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศหรือไม่

บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัท เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน server/cloud ในประเทศต่างๆกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานไม่เพียงพอ บริษัทจะดูแลการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับ เช่น มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกัน บริษัทอาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและจะดำเนินการให้การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือกิจการ/ ธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทนการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ได้


6. บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าใด

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้าหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัท หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ (เช่น กฎหมายธุรกิจสถาบันการเงิน กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง กฎหมายการบัญชี กฎหมายภาษีอากร กฎหมายแรงงาน และกฎหมายอื่นที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ) จัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปีนอกจากนี้ บริษัทอาจจะจำเป็นต้องเก็บบันทึกข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สำนักงานใหญ่ หรือสาขาของบริษัท และ/หรือ การบันทึกเสียงการให้บริการผ่าน Call Center เพื่อป้องกันเหตุทุจริตและการรักษาความปลอดภัย รวมถึงตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัยที่ท่านหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องอาจแจ้งมายังบริษัททั้งนี้ บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว


7. บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ และบริษัทได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสมนอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทกำหนดขึ้น


8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คุณมีสิทธิในการดำเนินการดังต่อไปนี้

8.1 สิทธิขอถอนความยินยอม (right to withdraw consent) หากคุณได้ให้ความยินยอม เราจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่คุณให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น คุณมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดเวลา

8.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล (right to access) คุณมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่อยู่ในความรับผิดชอบของเราและขอให้เราทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่คุณ รวมถึงขอให้เราเปิดเผยว่าเราได้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณมาได้อย่างไร

8.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล (right to data portability) คุณมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในกรณีที่เราได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

8.4 สิทธิขอคัดค้าน (right to object) คุณมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่คุณสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผลหรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์

8.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล (right to erasure/destruction) คุณมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวคุณได้ หากคุณเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือเห็นว่าเราหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อคุณได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

8.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (right to restriction of processing) คุณมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่เราอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของคุณหรือกรณีอื่นใดที่เราหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่คุณขอให้เราระงับการใช้แทน

8.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล (right to rectification) คุณมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

8.8 สิทธิร้องเรียน (right to lodge a complaint) คุณมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากคุณเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

คุณสามารถใช้สิทธิของคุณในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดยติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราตามรายละเอียดท้ายนโยบายนี้ เราจะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่เราได้รับคำขอใช้สิทธิจากคุณ ตามแบบฟอร์มหรือวิธีการที่เรากำหนด ทั้งนี้ หากเราปฏิเสธคำขอเราจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้คุณทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น


9. เทคโนโลยีติดตามตัวบุคคล (Cookies)

เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของคุณให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราใช้คุกกี้ (Cookies)หรือเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน เพื่อพัฒนาการเข้าถึงสินค้าหรือบริการ โฆษณาที่เหมาะสม และติดตามการใช้งานของคุณ เราใช้คุกกี้เพื่อระบุและติดตามผู้ใช้งานเว็บไซต์และการเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา หากคุณไม่ต้องการให้มีคุกกี้ไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณสามารถตั้งค่าบราวเซอร์เพื่อปฏิเสธคุกกี้ก่อนที่จะใช้เว็บไซต์ของเราได้


10. การรักษาความมั่งคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ตามหลักการ การรักษาความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (availability) ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผย นอกจากนี้เราจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (access control)


11. การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่มีเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเกิดขึ้น เราจะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของคุณ เราจะแจ้งการละเมิดให้คุณทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น


12. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว

เราอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้เป็นครั้งคราว โดยคุณสามารถทราบข้อกำหนดและเงื่อนไขนโยบายที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ของเรา

นโยบายนี้แก้ไขล่าสุดและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 09 ตุลาคม 2567


13. นโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์อื่น

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้สำหรับการเสนอสินค้า บริการ และการใช้งานบนเว็บไซต์สำหรับลูกค้าของเราเท่านั้น หากคุณเข้าชมเว็บไซต์อื่นแม้จะผ่านช่องทางเว็บไซต์ของเรา การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ จะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์นั้น ซึ่งเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย


14. รายละเอียดการติดต่อ

หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัท และ/หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านช่องทาง ดังนี้

14.1 ที่อยู่สำหรับติดต่อ : บริษัท ช.ที่เอ็ม ลิสซิ่ง จำกัด 27/7 หมู่ที่ 3 ถนนรักศักดิ์ชมูล. ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี 22000

14.2 อีเมล : [email protected]

14.3 หมายเลขโทรศัพท์ : 083 000 3888*

หมายเหตุ : บริษัทในกลุ่ม/บริษัทในเครือ ได้แก่ ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา แก่งหางแมว, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ขลุง, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา เขาคิชฌกูฎ, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ตลาดซุ้ย, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา สำนักงานใหญ่, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ทับช้าง, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ทับไทร, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ท่าใหม่, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา นายายอาม, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา พลับพลา, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา พลิ้ว, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา มะขาม, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา สนามเป้ายานยนต์, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา สอยดาว, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา หนองคล้า, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ฉะเชิงเทรา, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา บางคล้า, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา บ้านโพธิ์, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา พนมสารคาม, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา สนามชัยเขต, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ชลบุรี, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา บ่อทอง, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา บ่อวิน, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา บางพระ, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา บ้านบึง, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา บ้านอำเภอ, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา พนัสนิคม, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา พานทอง, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา โรงโป๊ะ, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ศรีราชา, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา สยามคันทรี, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา สหพัฒน์, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา สัตหีบ, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา อ่างศิลา, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา คลองใหญ่ ,ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ตราด, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา บ่อไร่, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา แสนตุ้ง ,ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา แหลมงอบ, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา นครนายก, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา บ้านนา, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา กำแพงแสน ,ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา นครปฐม, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ห้วยพลู, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา โคราช ,ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา โชคชัย, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา เซฟวัน, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ด่านขุนทด, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา โนนไทย, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา โนนสูง, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา บัวใหญ่, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ปักธงชัย, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ปากช่อง, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา พิมาย, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา หนองไผ่ล้อม, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา หัวทะเล, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา จอหอ, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา มิตรภาพ, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา นางรอง, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา บุรีรัมย์, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ประโคนชัย, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ลำปลายมาศ, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา หนองกี่, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา กบินทร์บุรี, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา คลองรั้ง ,ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา โคกอุดม ,ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ประจันตคาม ,ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ปราจีนตคาม, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ปราจีนบุรี, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ศรีมหาโพธิ, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา เขาชะเมา, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา โค้งยายชา, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา นิคมพัฒนา, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา เนินพระ, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา บ้านค่าย, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา บ้านฉาง, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา บ้านเพ, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา บ้านแลง, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ประแสร์, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ปลวกแดง, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา มาบตาพุด, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ระยอง, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา วังจันทร์, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา สามย่าน, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา ราชบุรี, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา เขาฉกรรจ์, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา คลองหาด, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา บ้านแก้ง, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา บ้านวัฒนานคร, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา เมืองอรัญ, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา วังน้ำเย็น, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา วังสมบูรณ์, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา สระแก้ว, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา แก่งคอย, ช.ที.เอ็ม.ลิซซิ่ง สาขา สระบุรี