ในยุคที่อะไรๆ ก็แพงไปหมด แต่รายได้กลับไม่ได้ขยับตามค่าครองชีพ หลายคนต้องเผชิญกับปัญหาหนี้สินรุมเร้า บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือแม้แต่หนี้บ้าน หนี้รถ เมื่อถึงจุดที่รายจ่ายเกินรายรับ แล้วเริ่มหมุนไม่ทัน
คำถามที่ตามมาคือ….ผ่อนไม่ไหว ทำอย่างไรดี?
วิธีจัดการหนี้อย่างมีสติ เริ่มต้นได้ง่ายนิดเดียว ในวันนี้ที่ใครกำลังท้อ อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะชีวิต เรายังต้องไปต่อกัน วิธีง่ายๆ ที่ใครๆก็ทำได้ มีอะไรบ้าง ไปดูกันครับ
หยุดก่อน อย่าก่อหนี้เพิ่ม
สิ่งแรกที่ต้องทำคือหยุดก่อหนี้เพิ่มทันที ไม่ว่าจะเป็นการรูดบัตรเพิ่ม การกู้เพิ่มหรือยืมเพื่อนเพื่อไปโปะหนี้ก้อนอื่น การกระทำแบบนี้ไม่ได้ต่างจากการขุดหลุมใหม่เพื่อกลบหลุมเก่า มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และลึกกว่าเดิม เวียนกันไปไม่รู้จบสิ้น
สรุปหนี้ที่มี ค่อยๆ ไตร่ตรอง
ทันทีที่เรารู้ว่า เรามีหนี้มากเกินความสามารถที่จะจ่ายไหว ให้เราลองนึกภาระหนี้สินที่มีในตอนนี้ออกแล้วจดยอดที่ต้องจ่าย วันครบกำหนดชำระ ดอกเบี้ยเท่าไหร่ ค้างกี่งวดแล้ว แล้วสรุปออกมาเพื่อลำดับความสำคัญก่อนหลัง รู้จักปัญหาก่อนที่จะแก้ปัญหากันก่อน
จัดลำดับความสำคัญของหนี้
- หนี้ที่ดอกเบี้ยสูง ให้รีบจัดการก่อนเพราะยิ่งปล่อยไว้นานยิ่งภาระสูง
- หนี้ที่มีผลกระทบสูง เช่น หนี้บ้าน หนี้รถ ถ้าไม่จ่ายอาจถูกยึด ให้พยายามชำระตามกำหนด
- หนี้ที่มีการฟ้องร้องแล้ว ต้องรีบติดต่อเจ้าหนี้เพื่อขอประนอมหนี้
ปรับพฤติกรรมการใช้เงิน
เมื่อรู้ว่ามีปัญหาแล้ว อย่าทำตัวเหมือนเดิม รายจ่ายฟุ่มเฟือยต้องตัด บางอย่างที่เคยคิดว่าจำเป็น อาจไม่จำเป็นจริง ๆ ตัดได้ให้ตัดทันที แม้ว่าชีวิตในช่วงนี้อาจจะลำบากมาก แต่เชื่อเถอะครับ ลำบากตอนนี้ดีกว่าต้องลำบากตลอดไป
หารายได้เสริม
การลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นก็เป็นสิ่งสำคัญ แต่ถ้าหนี้ที่มากเกินไปจนเกินความสามารถในการชำระหนี้ เราก็ควรที่จะหารายได้เพิ่ม ผ่านการทำงานเสริมที่แม้จะไม่มาก แต่มันก็จะพอช่วยเรามีรายได้ที่มากขึ้นนะครับ
ติดต่อเจ้าหนี้เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้
แน่นอนว่าโดยทั่วไปแล้ว เจ้าหนี้ส่วนใหญ่ มักมีมาตราการช่วยเหลือลูกหนี้ การเข้าไปติดต่อ ไม่หนี ไม่หาย ธนาคารหรือผู้ให้บริการทางการเงิน มักจะเสนอแนทางที่ช่วยแบ่งเบาภาระต่างๆ ไม่ว่าจะเป้นการยืดระยะเวลาผ่อน หรือปรับอัตราดอกเบี้ยเป็นต้นครับ
รวมหนี้ให้เหลือก้อนเดียว
ถ้ามีหลายหนี้กระจัดกระจาย ดอกเบี้ยแพง การรวมมาเป็นหนี้ก้อนเดียวที่ดอกเบี้ยถูกลง และผ่อนระยะยาวได้ จะช่วยให้บริหารจัดการได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ ก็ต้องเลือกแหล่งเงินที่ถูกกฎหมายและเงื่อนไขชัดเจนเท่านั้นนะครับ
อย่าหนี อย่าหาย
หลายคนเลือกปิดโทรศัพท์ หนีเจ้าหนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่ผิด การหนีไม่ทำให้หนี้หาย แต่จะทำให้เรื่องบานปลาย มูลหนี้สูงขึ้น เสียประวัติทางการเงิน และอาจถูกฟ้องศาล สิ่งที่ควรทำคือเผชิญหน้าพร้อมท่าทีที่รับผิดชอบ และขอเจรจาอย่างสุภาพ
การผ่อนไม่ไหวไม่ใช่จุดจบ ทุกปัญหามีทางออก ขอเพียงไม่หนี และเริ่มลงมือแก้ไขอย่างจริงจัง เริ่มจากหยุดก่อหนี้ใหม่ จัดการหนี้เก่าอย่างมีแผน ปรับพฤติกรรมการเงิน หารายได้เพิ่ม และหมั่นประเมินสถานการณ์อยู่เสมอ ความรับผิดชอบและความตั้งใจ จะพาคุณผ่านวิกฤตนี้ไปได้แน่นอน